เอซี มิลาน ประกาศคว้า บราฮิม ดิอาซ มาจาก เรอัล มาดริด เป็นที่เรียบร้อย สัญญายืมตัว 2 ปี พร้อมมีออปชั่นซื้อขาด 22 ล้านยูโร เอซี มิลาน ประกาศคว้า บราฮิม ดิอาซ มาจาก เรอัล มาดริด เป็นที่เรียบร้อย สัญญายืมตัว 2 ปี คำชี้แจงกำหนดแค่เพียงการดึงมาร่วมทีมไปจนกระทั่งจบฤดูกาล 2023 กระนั้นบรรดาสื่อใหญ่ในยุโรปรวมทั้งผู้สื่อข่าวโด่งดังเปิดเผยว่าการยืมตัวคราวนี้ ภูตผีปิศาจแดงดำ จ่ายค่ายืมไปให้ เรอัล มาดริด 3 ล้านยูโร นอกเหนือจากนั้น มิลาน มีออปชั่นสำหรับเพื่อการเซ็นสัญญาถาวรราคา 22 ล้านยูโร แต่มีเงื่อนไขที่ กษัตริย์ชุดขาว สามารถซื้อแนวรุกวัย 21 ปีกลับไปได้ในราคา 27 ล้านยูโร จอมบุกทีมชาติประเทศสเปน จะใส่เสื้อลำดับที่ 10 ช่องว่างอยู่หลังฮาคาน ชาลฮาโนกลู ตัดสินใจย้ายไปอินเตอร์ มิลาน สำหรับ ดีอาซ ลงในสนามให้ มิลาน เมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาไปทั้งผอง 39 เกม โดยฤดูกาลนี้นักฟุตบอลจะสลับมาใส่เสื้อลำดับที่ 10 ให้กับสโมสร

งงเต็กกันหมด! “ดานี่ อัลเวส” หน้าแข้งดังบราซิลพก “กลอง” ติดตัวฝ่าศึกโอลิมปิก
ดานี่ อัลเวส ปราการหลังจอมเก๋าทีมชาติบราซิล กลายเป็นข่าวสารดังข้างหลังถูกจับภาพเหมาะสนามบินนานาประเทศโตเกียว ว่านำกลองทิมบาจากบ้านเกิดติดตัวมาเข้าร่วมแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว โดย แบ็กขวาวัย 38 ปี ได้รับการเรียกตัวให้เข้ามาเป็นโควตาผู้เล่นอายุเกิน 23 ปี ของทีมชุดนี้ เดินทางถึงท่าอากาศยานโตเกียว เมื่อวันเสาร์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ก่อนได้รับความพึงพอใจจากบรรดาสื่อหลายสำนัก สำหรับ กลองอะลูมิเนียมที่เจ้าตัวนำติดตัวมาด้วยนั้น เป็นกลองที่ทำมาจากรัฐบาเอีย บ้านเกิดของเจ้าตัวนั่นเอง โดยหน้าแข้งดังขึ้นอยู่กับ เซา เปาโล หวังว่าเครื่องดนตรีจำพวกนี้จะก่อให้เขาโชคดีสำหรับในการแข่งขัน และก็สามารถปกป้องแชมป์ไว้ได้อีกสมัย อย่างที่เข้าใจดีว่า ชาวบราซิล ถือเป็นชาติที่สนุกเป็นชีวิต และก็เสียงกลองก็ถือเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดที่สร้างความสำราญ และก็และก็ความคึกคักภายในทีมระหว่างที่จำต้องสู้ศึก โอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่น ดังนี้ บราซิล ภายใต้การนำทัพของผู้จัดการทีมฟุตบอล อันเดร ชาร์ดีน อยู่กลุ่มดี ร่วมกับ เยอรมนี, ไอวอรี่วัวสต์ และก็ ซาอุดีอาระเบีย โดยเกมแรกของพวกเขาคือการพบกับ “อินทรีเหล็ก” ในวันพฤหัสบดีที่ 22 เดือนกรกฎาคม นี้
คนมันเทพ! สื่อตี แอตเลติเตียนโก มาดริด จ้องสอย “ลินการ์ด” เฉิดฉายลาลีกา
เดลี เมล สื่อดังของอังกฤษ รายงานว่า เจสซี ลินการ์ด มิดฟิลด์ตัวรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นวัตถุประสงค์ในตลาดค้าขายซัมเมอร์ของ แอตเลติโก มาดริด ทีมแชมป์ลาลีกา สเปน ดาวเตะวัย 28 ปีย้ายกลับมายังถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ข้างหลังหมดสัญญายืมตัวกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดยเจ้าตัวสามารถสร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจในตอนครึ่งฤดูข้างหลัง ทำได้ 9 ประตูจากการลงไปในสนาม 16 นัดช่วยทำให้ทีมของ เดวิด มอยส์ คว้าชั้น 6 ของตารางรวมทั้งผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลยูโรปา ลีก ได้เสร็จ ด้วยฟอร์มอันเร่าร้อนแบบนี้ ทำให้ ลินการ์ด ได้รับการเรียกตัวกลับมาติดทีมชาติอังกฤษอีกทีเมื่อเดือนมีนาคมรวมทั้งยังมีชื่อเป็น 1 ใน 33 นักฟุตบอลที่ถูกเรียกมาเตรียมตัวก่อนศึกยูโร 2020 แม้กระนั้นก็ถูกตัดออกจาก 26 คนสุดท้ายก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้นอย่างโชคร้าย สำหรับอนาคตของแนวรุกรายนี้ ถึงแม้ทาง โอเล กุนนาร์ โซลชา จะออกมาการันตีว่าเขายังปรารถนาเก็บนักฟุตบอลเอาไว้กับทีมต่อไป แม้กระนั้น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก็ปรารถนาดึงเขากลับไปร่วมทีมอีกที แล้วก็จากรายงานล่าสุดบอกว่า แอตเลติโก มาดริด ของ ดิเอโก สิเมโอเน ก็สนใจอยู่ด้วยเช่นกัน คาดว่า ลินการ์ด จะมีค่าตัวในตลาดค้าขายประมาณ 25 ล้านปอนด์ในระหว่างที่คำสัญญาของเขาเหลืออีกเพียงแค่ปีเดียว ซึ่งทางทีมขุนค้อนมีแผนสำหรับการที่จะยืมตัวไปใช้งานต่ออีกหนึ่งฤดู ในระหว่างที่เจ้าตัวปรารถนาย้ายทีมแบบถาวรในซัมเมอร์นี้

สีนี้ไม่ให้ใช้! เซเรีย อา สั่งแบนชุดสีเขียวเริ่มตั้งแต่ซีซั่น 2022/23
เซเรีย อา อิตาลี จัดการออกกฏใหม่ห้ามทุกทีมในลีกใส่ชุดแข่งที่มีสีเขียวลงสู่สนาม เริ่มใช้ตั้งแต่ฤดู 2022/23 เป็นต้นไป ด้วยเหตุผลรบกวนการถ่ายทอดสด Football Italia สื่อดังจากแดนมักกะโรนี กล่าวว่า เซเรีย อา ได้มีการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบเกี่ยวกับอาภรณ์อีกครั้ง เพื่อกล้องถ่ายภาพถ่ายทอดสดดำเนินการได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และก็อำนวยความสะดวกต่อคนที่เป็นโรคตาบอดสี รายงานระบุว่า การเปลี่ยนแปลงคราวนี้เหมาและก็ เสื้อ กางเกง และก็ถุงเท้า ที่ห้ามใส่สีเขียวอีกทั้งโทนเข้มและก็อ่อน ส่วนในกรณีที่ชุดแข่งขันมีมากกว่า 2 สี จำเป็นจะต้องให้สีอื่นมีความสะดุดตากว่าสีเขียวเพียงแค่นั้น และก็จะมีการบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ฤดู 2022/23 เป็นต้นไป โดย เซเรีย อา ตัดสินใจประกาศให้รู้ตั้งแต่ฤดูนี้เพื่อทุกทีมมีเวลาเตรียมความพร้อม จากการประกาศกฎดังกล่าวมาแล้วข้างต้น แน่ๆว่าชมรมที่ได้รับผลพวงมากที่สุดในลีกก็คือ ซัสซูโอโล ที่ชุดแข่งหลักเป็นสีเขียวนั่นเอง

เมื่อ “3 แข้งบราซิล” เลือกสวมเสื้ออิตาลียึดแชมป์ยูโร 2020
ถึงแม้ทัพลูกหนัง “แซมบ้า” บราซิล จะชวดครอบครองแชมป์ระดับทวีปบนดินแดนของตน เนื่องจากว่าเสียท่าแพ้ “ฟ้าขาว” อาร์เจนตินา 0-1 ในศึกฟุตบอลชิงชนะเลิศแห่งชาติอเมริกาใต้ โคขว้าง อเมริกา 2021 รอบชิงแชมป์ ที่ประเทศบราซิล แต่กลับมีนักเตะสายเลือดบราซิลถึง 3 ผู้ที่ได้สังสรรค์แชมป์ระดับทวีปบนดินแดนยุโรป เนื่องจากว่าได้เปลี่ยนสัญชาติไปร่วมทัพลูกหนัง “อัซซูร์รี” อิตาลี ชุดแชมป์ยูโร 2020 ไล่ตั้งแต่ จอร์จินโญ่, เอแมร์ซอน พัลมิเอรี และ ราฟาเอล โตลอย นั่นเอง ในศึกยูโร 2020 มีนักเตะสายเลือดบราซิลเปลี่ยนสัญชาติไปรับใช้ทีมลูกหนังในทวีปยุโรปทั้งหมด 6 คน ยกตัวอย่างเช่น เปกระเป๋า กองหลังทีมชาติประเทศโปรตุเกส, มาริโอ แฟร์นันเดส กองหลังทีมชาติรัสเซีย, มาร์ลอส ตัวเติมเกมรุกจากฝั่งขวาทีมชาติยูเครน และ 3 นักเตะทีมชาติอิตาลีตามรายนามข้างต้น โดยทั้ง 6 คนมีชื่อเสียงกล่าวกำเนิดที่ประเทศบราซิลทั้งหมดเลยด้วย แม้กระนั้นมีอยู่หนึ่งผู้ที่ไม่เคยผ่านการลงเล่นให้สโมสรฟุตบอลในประเทศบราซิลมาก่อนเลย มันก็คือ จอร์จินโญ่ เนื่องจากว่าได้ย้ายมาปักหลักรกรากในประเทศอิตาลีตั้งแต่ในตอนที่มีอายุเพียงแต่ 15 ปี และได้รับสัญชาติเป็นชาวอิตาเลียนตามบรรพบุรุษด้วยนั่นเอง ต่อจากนั้นได้เริ่มอาชีพค้าหน้าแข้งกับ เวโรที่นา ในตำแหน่งมิดฟิลด์เมื่อปี 2010 และย้ายไปสร้างชื่อกับ ที่นาโปลี ก่อนที่จะย้ายลงหลักปักฐานกับ เชลซี ตั้งแต่ปี 2018 จนกระทั่งตอนนี้ ดังนี้ จอร์จินโญ่ ได้ถูกเรียกมารับใช้ทัพลูกหนัง “อัซซูร์รี” มาตั้งแต่ปี 2016 ส่วนในรายของ เอแมร์ซอน เคยค้าหน้าแข้งในบราซิลกับ ซานโตส มาก่อน แม้กระนั้นได้ย้ายมาสร้างชื่อกับ โรม่า ในปี 2015 และได้เปลี่ยนสัญชาติเพื่อไปใส่เสื้อสีน้ำเงินตั้งแต่ปี 2018 ขณะที่ โตลอย พึ่งจะได้สัญชาติในตอนต้นปี 2021 ภายหลังที่อยู่ปักหลักยืนเล่นเป็นกองข้างหลังของ อตาลันตา มานานถึง 6 ปีแล้ว นับตั้งแต่ย้ายมาจาก ซานโตส ในบ้านกำเนิดเมื่อปี 2015 ก่อนหน้าที่ผ่านมามีนักเตะสายเลือดบราซิลที่ได้เปลี่ยนสัญชาติไปครอบครองแชมป์ยุโรปมาแล้วถึง 2 คน เริ่มจาก มาร์กอส เซนที่นา ได้จารึกชื่อเป็นคนแรกเมื่อในตอนที่สวมบทเป็นกองกลางทีมชาติประเทศสเปนชุดแชมป์ยูโร 2008 ส่วน เปกระเป๋า ตามมาเป็นผู้ที่ 2 โดยสวมบทเป็นกองข้างหลังทีมชาติประเทศโปรตุเกสชุดแชมป์ยูโร 2016 พอๆกับว่าในช่วงเวลานี้มีนักเตะสายเลือดบราซิลที่ได้เปลี่ยนสัญชาติไปครอบครองแชมป์ยุโรปเพิ่มเป็น 5 รายแล้ว เนื่องจากว่า จอร์จินโญ่, เอแมร์ซอน และ โตลอย เปลี่ยนเป็นอีก 3 หน้าแข้งแซมบ้าที่ได้เข้าทำเนียบนี้กันแบบพร้อมหน้ากลมเกลียวพร้อมใจ เนื่องจากว่าได้ใส่เสื้อของทัพลูกหนัง “อัซซูร์รี” สังสรรค์แชมป์ยูโร 2020 ไปหมาดๆ

พวกไม่ยอม! แฟนอังกฤษกว่า 1 แสนคนร่วมเซ็นนัดชิงยูโร 2020 จะต้องแข่งใหม่
ผ่านมาแล้ว 3 วัน สำหรับนัดชิงแชมป์ฟุตบอลยูโร 2020 ที่บทสรุปเป็น กลุ่มชาติอิตาลี ดวลจุดลูกโทษชนะ กลุ่มชาติอังกฤษ ไป 3-2 ข้างหลังเท่ากันในเวลา 120 นาที 1-1 เถลิงแชมป์ยูโรสมัยที่ 2 ได้เสร็จ ท่ามกลางความหมดหวังของกองเชียร์สิงโตคำรามในสนามเวมบลีย์ ล่าสุด มีกล่าวว่าแฟนบอลกลุ่มชาติอังกฤษกว่า 1 แสนคนได้พากันร่วมเซ็นอย่างจริงจัง เพื่อขอให้ ยูฟ่า กระทำการรีแมตช์นัดชิงแชมป์ใหม่อีกครั้ง ด้วยเหตุผลหลักว่า เชิ้ตดำในเกมนี้ตัดสินไม่แฟร์ โดยแฟนบอลอังกฤษมุ่งเป้าจู่โจมไปที่ บียอร์น ไคเปอร์ส ผู้ตัดสินประชาชนชาวเนเธอร์แลนด์ ที่ในมุมมองของแฟนบอลผู้ดีนั้นพูดว่าตัดสินบกพร่องหลายจังหวะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวะที่ จอร์จิโอ คิเอลลินี ดึงเสื้อของ บูกาโย ซากา ที่ควรจะให้ใบแดงแม้กระนั้นก็ให้แค่ใบเหลือง รวมทั้งจังหวะที่ จอร์จินโญ่ ย่ำใส่ แจ็ค กรีลิช ก็ควรจะเป็นใบแดงด้วยเหมือนกัน จนถึงในเวลานี้ มีคู่รักบอลอังกฤษกว่า 100,000 คนไปร่วมเซ็นใน change.org เว็บไซต์ที่มีไว้สำหรับสร้างแคมเปญต่างๆเรียกร้องให้ อังกฤษ กับ อิตาลี ได้ชิงชัยกันใหม่อีกที ซึ่งนอกเหนือจากพวกเขาเห็นว่ากรรมการเป่านกหวีดแบบไม่ยุติธรรมแล้ว ยังกำหนดเพิ่มเพราะ กลุ่มชาติอิตาลีเล่นแรงเหลือเกิน โดยใช้คำว่า “ดึง, ผลัก, เตะ” ใส่ผู้เล่นกลุ่มชาติอังกฤษ อย่างไรก็ดี การร่วมเซ็นครั้งนี้คงจะเป็นไปได้เพียงแต่การแสดงออกทางข้อคิดเห็นเพียงแค่นั้น ซึ่งทาง ยูฟ่า เองคงจะไม่มีการตอบกลับคำเรียกร้องนี้แต่อย่างใด

ไขปัญหา! “เซาธ์เกต” เปิดใจเลือก 3 ดาวรุ่ง ลงมายิงจุดลูกโทษในเกมสุดกดดัน
“สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ จะต้องพบกับความหมดหวังอีกรอบ หลังเป็นฝ่ายแพ้จุดลูกโทษต่อ อิตาลี 2-3 ที่สนาม เวมบลีย์ ในเกมนัดหมายชิงแชมป์ ฟุตบอลยูโร 2020 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 11 ก.ค. 2564 ทำให้พวกเขายังจะต้องรอคอยการบรรลุผลต่อไปในทัวร์นาเมนต์รายการใหญ่ โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาทำสำเร็จเป็นการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก เมื่อปี 1966 หรือย้อนกลับไปเมื่อ 55 ปีที่แล้ว อย่างไรก็แล้วแต่มีหลายเสียงวิจารณ์หลังเกมอย่างใหญ่โต เกี่้ยวกับการตกลงใจของ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือชาติอังกฤษที่เลือกให้นักเตะอายุน้อยของทีมมาเป็นคนยิงจุดลูกโทษในเกมที่มีความกดดันสูง ทั้งยัง บูค้างโย่ ซาก้า (19 ปี), เจดอน ซานโช่ (21 ปี) และก็ มาร์คัส แรชฟอร์ด (23 ปี) ซึ่งทั้งยังสามรายพลาดหมด โดยหลังเกม ผู้จัดการทีมวัย 50 ปี ออกมาแจกแจงถึงหัวข้อนี้ว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างมันขึ้นกับผม พวกเขาไม่ได้เสนอตัว แต่ผมเป็นคนตัดสินใจมอบหน้าที่นั้นให้พวกเขายิงจุดลูกโทษเอง โดยไตร่ตรองจากภาพรวมสำหรับการฝึก แม้คุณจะโทษคนไหนกันแน่ คนนั้นต้องเป็นผม แน่นอนพวกเขาจะไม่ได้อยู่ตามลำพัง แต่เราจะอยู่เคียงข้างเขา” นอกเหนือจากนี้ อดีตปราการหลังสิงโตคำราม ยังได้เผยถึงต้นเหตุว่าเหตุไรทีมก็เลยหันมาเล่นเกมรับ และก็ตกลงใจเปลี่ยนตัวผู้เล่นที่ช้าเอามากๆ”เราเก็บบอลกันได้ไม่ดีพอเพียง โน่นทำให้เราเจอแรงกดดันที่มากขึ้น การดึงเกมให้ช้าลงจะทำให้พวกผู้เล่นพร้อมที่จะเล่นเกมบุก มันก็ดังการพนัน ถ้าเราเปิดเกมรุกแลกเปลี่ยนก่อนหน้านี้ เราก็บางครั้งก็อาจจะแพ้ในช่วงทดเวลาก็เป็นได้”
ข้อสรุปศึกยูโร 2020 : ผู้เล่นเยี่ยมยอด, ดาวซัลโว, จอมแอสซิสต์, ดาวรุ่งเยี่ยมยอด ,สถิติอื่นๆที่น่าดึงดูด
ภายหลังที่ อิตาลี ผงาดครองแชมป์ ยูโร 2020 ถึงอังกฤษ หลังเสมอใน 120 นาที 1-1 ก่อนเอาชนะจุดลูกโทษวินิจฉัย 3-2 ครองแชมป์มาครองเป็นสมัยลำดับที่สองหลังจากเคยคว้าทำเป็นเสร็จในปี 1968 ทางยูฟ่าได้ประกาศรางวัลต่างๆที่เกิดขึ้น หลังจบทัวร์นาเมนท์นี้ในทันที ส่วนจะมีอะไรที่น่าดึงดูดกันบ้างไปติดตามกันได้เลย ผู้เล่นดีเยี่ยมที่สุดของ : จานลุยจิ ดอนนารุมมา (อิตาลี) นักฟุตบอลวัย 22 ปีรายนี้กำลังย้ายจาก เอซี มิลาน ไปร่วมทีม กรุงปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้โชว์เซฟสองจุดลูกโทษสำหรับเพื่อการดวลจุดลูกโทษของกับ อังกฤษ เมื่อคืนนี้ที่ เวมบลีย์ และก็ช่วยทำให้ทีมของเขาครองแชมป์ ยุโรป เสร็จ เป็นครั้งแรกนับจากปี 1968 นอกเหนือจากนี้เขายังเป็นผู้เฝ้าประตูผู้ที่สองที่ได้รับรางวัลดังกล่าวต่อจาก ปีเตอร์ ชไมเคิล ของ เดนมาร์กในปี 1992 เขาเก็บคลีนชีตได้สามนัดและก็เสียสี่ประตูใน ทัวร์นาเมนต์ จากการลงเล่นไป 719 นาที มากกว่าผู้เล่นผู้อื่นในรายการ ทำเนียบนักฟุตบอลดีเยี่ยมที่สุด ศึกยูโร 7 ครั้งปัจจุบัน – ปี 2020 : จานลุยจิ ดอนที่นารุมมา (อิตาลี) – ปี 2016 : อองตวน กรีซมันน์ (ฝรั่งเศส) – ปี 2012 : อันเดรส อิเนียสต้า (สเปน) – ปี 2008 : ชาบี้ เออร์นานเดซ (สเปน) – ปี 2004 : ธีโอโดคอยส ซาโกราคิส (กรีซ)…

แรงนะเนี่ย! “กูร์กตัวส์” พลั้งปากลั่น “มาร์กซิยัล” นับว่าเป็นลำแข้งดังเหรอ?
ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูกลุ่มชาติเบลเยียมของ เรอัล มาดริด สมาพันธ์ยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกา สเปน หลุดตั้งคำถามถึง อ็องโตนี มาร์กซิยัล แผงหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่านับเป็นนักฟุตบอลระดับสตาร์หรอ? ระหว่างการเสวนาในรายการ Pickx กับ แยน แฟร์เกน ปราการหลังเพื่อนร่วมชาติ โดยในรายการ ข้าร์กตัวส์ถูกแฟร์เกนถามว่า “ให้เลือกนักฟุตบอลระดับสตาร์ 3 คน ที่ไม่ได้ลงเล่นในยูโรคราวนี้” ซึ่งข้าร์กตัวส์ก็ตอบว่า “เซร์คิโอ รามอส และ เอ่อ…..

เดือดก่อนชิงดำ! “เนย์มาร์” ของขึ้นไล่พวกแซมบ้าปันดวงใจไปตายซะ
โหมโรงก่อนศึกโคปา อเมริกา 2021 นัดหมายชิงชนะเลิศ ที่จัดแจงฟาดลำแข้งกันรุ่งเช้าวันอาทิตย์ที่ 11 ก.ค. 2564 เวลา 07.00 น. ตามเวลาประเทศไทย อย่างที่แฟนบอลเข้าใจดี ปีนี้เป็นการแข่งระหว่างคู่ชิงในฝัน คู่รักคู่แค้นนิรันดรอย่าง ผู้จัดงาน กลุ่มชาติบราซิล เจอกับ กลุ่มชาติประเทศอาร์เจนตินา ปัจจุบัน เนย์มาร์ ซูเปอร์สตาร์กลุ่มชาติบราซิล ออกโรงจวกแฟนบอลเพื่อนร่วมชาติ ข้างหลังมีกระแสไม่น้อยที่ออกมาหนุนทัพฟ้าขาวให้ครองแชมป์วัวปา อเมริกา โดยเหตุผลด้วยเหตุว่าเป็นสาวกของ ลิโอเนล เมสซี จอมบุกจากบาร์เซโลนานั่นเอง สำหรับจุดเริ่มแรกเรื่องราวดังกล่าวมาแล้วข้างต้นนี้ เกิดขึ้นเมื่อ ฟาบิโอลา อันดราเด นักข่าวหญิงสายกีฬาของบราซิล ออกมาแสดงจุดยืนว่าต้องการที่จะให้เมสซีได้แชมป์รายการนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต โดยเธอได้โพสต์ว่า “ก่อนจะเอาก้อนหินมาขว้างใส่ฉันในที่ชุมชน ฟังฉันชี้แจงก่อน ฉันรักบราซิล ฉันรักวงการฟุตบอลบราซิเลียน ใช่ ฉันมีเพื่อนชาวอาร์เจนไตน์ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อย แม้กระนั้นฉันมิได้เชียร์ประเทศอาร์เจนตินา ในเกมนัดหมายชิงวัวปา อเมริกา ฉันก็จะไม่เชียร์พวกเขา ไม่เลย แม้กระนั้นฉันเชียร์ด้วยเหตุว่าฉันรักฟุตบอล รวมทั้ง ลิโอ เมสซี @leomessi ชายคนนี้จะต้องได้แชมป์ในสีเสื้อกลุ่มชาติของเขา! มันเป็นเรื่องที่เป็นธรรม!” ภายหลังโพสต์ของผู้รายงานข่าวสาวดังกล่าวมาแล้วข้างต้นได้เผยแพร่ออกไป ปรากฎว่ามีแฟนบอลไม่น้อยล้วนเชื่อฟังความคิดเห็นของอันดราเด ซึ่งแทบทั้งหมดก็บอกเหตุผลคล้ายคลึงกันนั่นคือ เชิดชูในฝีเท้าของจอมบุกจากชาติคู่รักคู่แค้น รวมทั้งต้องการที่จะให้สมหวังเสียเชิงในวัย 34 ปี ทั้งแฟนบอลบราซิลยังคับข้องใจจากความล้มเหลวของทัพแซมบ้าชุดนี้มาจากฟุตบอลโลก 2018 ด้วยทำให้ปัจจุบัน เนย์มาร์ ถึงกับอดรนทนไม่ได้ ออกมาโพสต์ลงไอจีสตอรีในประเด็นนี้ยาวเหยียดว่า “ผมคือคนบราซิล เป็นด้วยความรักอย่างเต็มองอาจ ความฝันของผมตลอดชีพคือการได้เล่นให้กลุ่มชาติรวมทั้งได้ฟังแฟนบอลส่งเสียงร้องช่วยเหลือ” “ผมไม่เคยจู่โจมหรือคิดจะจู่โจมบราซิล เวลาพวกเขาแข่งอะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นกีฬา, ประกวดนางงาม หรือออสการ์” “ถ้าเกิดสิ่งนั้นคือบราซิล ด้วยเหตุว่าผมคือคนบราซิล รวมทั้งใครก็ช่างที่เป็นคนบราซิล ส่วนคนบราซิลที่เห็นต่างออกไป ก็ไม่เป็นไรนะ ผมให้ความนับถือ แม้กระนั้นไปตกนรกซะเถิด” สำหรับ เนย์มาร์ ทำไปแล้ว 2 ประตูให้บราซิลในทัวร์นาเมนต์นี้ นัดหมายที่เจอ กลุ่มชาติเวเนซุเอลา รวมทั้ง กลุ่มชาติเปรู ใน 2 เกมแรกของรายการ แล้วต่อจากนั้นเขายิงมิได้อีกเลย แม้กระนั้นบราซิลก็ยังเข้มแข็งพอที่จะผ่านเข้ามาถึงนัดหมายชิงชนะเลิศ โดยนัดหมายนี้จะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2007 ด้วย ที่บราซิลจะได้เจอหน้ากับประเทศอาร์เจนตินาในรอบชิงชนะเลิศ ก่อนหน้าที่ผ่านมาบราซิลเคยเป็นแชมป์ 9 ยุค ส่วนประเทศอาร์เจนตินาเป็นแชมป์ 14 ยุค รวมทั้งมีลุ้นทาบสถิติสูงสุด 15 ยุคของอุรุกวัยในวันพรุ่ง